นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำหับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คาดว่าจะสรุปเกณฑ์กำกับการทำ Initial Coin Offering (ICO) ภายในไตรมาส 1/61 หลังครบกำหนดเวลาเปิดรับฟังความเห็นและเตรียมเสนอร่างแก้ไขพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงปลายม.ค.-ต้นก.พ.61 หวังให้บังคับใช้ได้ทันภายในปีนี้
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับเกณฑ์กำกับดูแล ICO โดยได้รับฟังความคิดเห็นเช่น ICO จะถือว่าเป็นหลักทรัพย์ประเภทหนึ่งหรือไม่เป็นต้นโดยคาดว่าจะสรุปเกณฑ์ออกมาได้เห็นชัดเจนในช่วงไตรมาส 1/61 นี้อย่างไรก็ตามมองว่านักลงทุนควรมีความระมัดระวังอย่างมากและทางก.ล.ต.จะไม่ได้เข้าไปดูแลเต็มที่เหมือนหลักทรัพย์ปกติ
“ICO ไม่ได้มีการเก็บบันทึกย้อนหลังแต่เป็นการวาดฝันภาพของอนาคตซึ่งเรื่องความเป็นไปได้นั้นยังไม่ได้ถูกพิสูจน์เพราะฉะนั้นด้านของนักลงทุนเองต้องมีความเข้าใจว่าถ้าคุณอยากจะเข้ามาสู่ตลาดนี้จะต้องมีความเข้าใจถึงบริบทจะต้องมีความรู้ดีโอกาสที่ประสบความล้มเหลวก็เยอะมากแต่หากประสบความสำเร็จจริงผลตอบแทนก็หลายร้อยเปอร์เซ็นต์"นายรพีกล่าว
นอกจากนี้ยังได้เตรียมเสนอร่างแก้ไขพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงปลายม.ค.-ต้นก.พ.61 ทั้งในเรื่องของความเป็นอิสระของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF), อิเลคทรอนิกส์เทรดดิ้งแพลตฟอร์มขณะที่ความคาดหวังของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะสามารถบังคับใช้ได้ทันภายในปีนี้
นายรพี กล่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับแผนงานของก.ล.ต. ในปีนี้คือการที่จะทำให้ประชาชนเข้าถึงตลาดทุนมากขึ้นโดยในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าผลตอบแทนของตลาดทุนอยู่ในระดับสูงมาโดยตลอดโดยให้กลับมามองถึงการให้คำแนะนำของบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆที่มีนายหน้าซื้อหลักทรัพย์เป็นในรูปแบบของการขายของโดยได้จัดกิจกรรมให้คำแนะนำเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับผู้ที่สนใจจะใช้ตลาดทุนเป็นเครื่องมือโดยต้องมองถึงผู้ประกอบการที่มีความพร้อมที่จะดูแลพอร์ตการลงทุนของลูกค้าและแยกการแนะนำออกจากกระบวนการขายเพราะหากทั้ง 2 เรื่องเข้ามาร่วมกันก็จะถูกครอบงำโดยกระบวนการขาย
ต่อมาคือ การใช้ตลาดทุนในการระดมทุนในรูปแบบต่างๆเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาเกี่ยวข้องและจะทำให้การระดมทุนในรูปแบบต่างๆแตกต่างไปจากเดิมค่อนข้างมากโดยจะมีกฎเกณฑ์ต่างๆออกมาเพื่อที่จะแยกของดีออกจากของเสียและให้ประชาชนสามารถแยกได้ว่าอันไหนเป็นการฉ้อโกงและอันที่ต้องการระดมทุนอย่างจริงจังและเปิดช่องทางให้สามารถเข้าระดมทุนได้
และส่วนสุดท้ายคือการที่ประเทศไทยหรือตลาดทุนไทยที่จะส่วนร่วมหรือเป็นส่วนช่วยประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นกัมพูชาสปป.ลาวและพม่าสามารถที่จะเจริญเติบโตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตลาดเพื่อนบ้านให้มากขึ้น
นายรพี กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (61-63) ของก.ล.ต. จะครอบคลุม 5 เรื่องสำคัญได้แก่สนับสนุนผู้ให้บริการด้านการให้คำแนะนำและวางแผนทางการเงินที่ประชาชนเข้าถึงได้และมีคุณภาพ (wealth advice for all) เป็นการสนับสนุนผู้ให้บริการด้านการให้คำแนะนำและวางแผนทางการเงินที่ประชาชนเข้าถึงได้และมีคุณภาพและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีฟินเทคเพื่อตอบโจทย์และเป็นเครื่องมือช่วยวางแผนทางการเงิน, สร้างโอกาสในการระดมทุนสำหรับทุกหน่วยเศรษฐกิจสร้างทางเลือกช่องทางการระดมทุนใหม่สำหรับธุรกิจ SMEs และ startups ขจัดอุปสรรคและลดต้นทุนการเข้าถึงทุนในช่องทางปัจจุบันส่งเสริมการระดมทุนของประเทศเพื่อนบ้านและสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเป็นผู้เล่นระดับภูมิภาค,
รวมทั้งสร้างศักยภาพการแข่งขันของตลาดทุนไทยโดยการยกระดับสมรรถนะโครงสร้างพื้นฐานรองรับการประกอบธุรกิจแบบดิจิทัล, รู้เท่าทันความเสี่ยงและกำกับดูแลได้อย่างตรงจุดยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนและธนาคารที่ขายหน่วยลงทุนและยกระดับมาตรฐานการออกมาตรการการกำกับดูแลโดยการปฏิรูปกฎเกณฑ์ที่ใช้ในตลาดทุนให้มีเท่าที่จำเป็นมีการวิเคราะห์ต้นทุน (compliance cost) ผลกระทบและประเมินผลสัมฤทธิ์พร้อมทั้งสร้างระบบฐานข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการทำงานของก.ล.ต. ในอนาคตโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างเต็มที่
อินโฟเควสท์