ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'ธนาคารกดดัน'
  SET ปิดปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นในกลุ่มธนาคารหลังความชัดเจนของการประชุมกนง. ที่มีมติคงดอกเบี้ยสร้างแรงขายออกมา ขณะที่หุ้นอื่นๆ มีการเคลื่อนไหวเฉพาะตัวมากขึ้นตามประเด็นของผลประกอบการ ปิดทำการ SET index ปิดที่ 1,382.41 จุด ลดลง 7.72 จุด

ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
  (+) ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเข้าตลาดผ่านตลาด RP 7 วัน อย่างต่อเนื่อง เพื่อผ่อนคลายภาวะตึงตัวทางการเงิน
  (+) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีความเห็นว่ารายได้จากการท่องเที่ยวปี 60 น่าจะเติบโตมากกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 2.5 ล้านล้านบาท โดยช่วง1 มกราคม- 8 พฤษภาคม มีรายได้รวม 6.24 แสนล้านบาท 18.43%YoY
  (+) MOF เสนอโครงการ PICO Finance แก้ไขหนี้นอกระบบ
  (-) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวลดลง หลังรัฐบาลซาอุดิอาระเบียประกาศปลด นายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมัน หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียได้รับผลกระทบจากภาวะราคาน้ำมันตกต่ำ
  (-) ตลาดหุ้นสหรัฐ และยุโรปปรับตัวลดลงวันก่อนจากความกังวลต่อผลประกอบการที่รายงานออกมา
  (-) นักลงทุนต่างชาติมี Net sell ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 มูลค่า 1 พันล้านบาท รวม 4 วันมี Net Sell รวม 5.6 พันล้านบาท
  (+/-) กนง.มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวที่ 3.1% แต่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ภัยแล้ง
  (+/-) ความผันผวนจาก Earning Season

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
  * การประชุม BOE วันที่ 12 พ.ค.
  * การประกาศปรับดัชนี MSCI รอบ 6 เดือน ช่วงเช้าวันที่ 13 พ.ค.
  * การหารือโครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีนระหว่างวันที่ 11-13
  * การแถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ของไทยในวันที่ 16

กลยุทธ์การลงทุน 'เน้นรายตัว'
  ประเมินภาพรวมดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังการปรับตัวลดลงก่อนหน้าทำให้แรงขายเริ่มลดลง ขณะที่ภาพรวมปัจจัยต่างประเทศไม่ได้มีปัจจัยที่โดดเด่นมากนัก ด้านในประเทศแนวโน้มความกังวลต่อผลประกอบการของหุ้นธนาคารยังมีต่อไป จากแนวโน้มดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ทั่วโลก และแนวโน้ม NPL ที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ล่าช้า เน้นหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1 โดดเด่น ได้แก่ หุ้นวัสดุก่อสร้าง เหล็ก และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว หลังตัวเลขนักท่องเที่ยว YTD ขยายตัวได้ในระดับดี

หุ้นเด่นประเด็นร้อน
UTP เก็งกำไร
  * รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 น่าประทับใจ มีกำไร 65 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 41%YoY มีโอกาสปรับประมาณการปี 59 ขึ้น
  * อยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตกว่า 166%YoY จาก 300 ตันต่อวันสู่ 800 ตันต่อวัน สร้างการขยายตัวของผลประกอบการปี 60
  * ประเมินราคาเหมาะสมที่ 5.20 บาท มี Upside ที่น่าพอใจ และ Dividend Yield ราว 4% ต่อปี
PAP เก็งกำไร
  * ได้รับผลดีจากแนวโน้มราคาเหล็กโลกที่ปรับตัว
  * คาดหมายแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1 กลับมามีกำไร 104 ล้านจากปีก่อนที่ขาดทุน 106 ล้านบาท และ + 247%QoQ
  * คาดหมายกำไรปี 59 ที่ 261 ล้านบาท turn around จากขาดทุนในปีก่อน กลับมาจ่ายปันผล และมี upside จากราคาพื้นฐานที่ 4.75 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์ฯ