หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
logo ace
บล.เออีซี : Daily Focus
 
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้เราคาด SET Index แกว่ง Sideway ในกรอบ 1,665-1,680 จุด แนะนำติดตามปัจจัย ตปท.ประเด็น Trade War สหรัฐฯ-จีน ขณะที่ในประเทศติดตามการประกาศดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. และทิศทางแนวโน้มเศรษฐกิจ
•    Market Factor
•    (+) ธนาคารกลางจีนได้กำหนดค่ากลางสกุลเงินหยวนที่ระดับ 6.9683 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ   แข็งค่ามากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.9736 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ตลาดคาดว่าจีนจะไม่ใช้เงินหยวนเป็นเครื่องมือในการทำสงครามทางการค้ากับสหรัฐฯ
•    (+) ครม.เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาทเพิ่มขึ้น 6.7%YoY (โพสต์ทูเดย์)
•    (-) สรท. เผยตัวเลขส่งออกเดือนมิ.ย.มีมูลค่า 21,409.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 2.15%YoY ขณะที่ยอด 1H62 มูลค่ารวม 122,970 ล้านเหรียญสหรัฐ ยังติดลบ 2.91%YoY พร้อมมองทั้งปีมีโอกาสติดลบราว 1% (มติชน)
•    (watch) ติดตามการประชุมของ กนง.วันนี้(ตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75%) พร้อมส่งสัญญาณถึงแนวโน้มเศรษฐกิจ และภาพรวมการส่งออกของปีนี้
•    (watch) จับตาความคืบหน้า FETCO  เข้าพบ รมว.คลังวันนี้ เพื่อเสนอตั้ง2 กองทุนใหม่ ทดแทน LTF ที่จะหมดอายุสิ้นปี
•    (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 104.01บาท หรือลดลง 9.67% Year To Date
•         Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 3,415.98 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิรวม 11,418.28 ลบ. 
•    Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้เราประเมินดัชนี SET Index แกว่งในกรอบ 1,630-1,680 จุด โดยอยู่ระหว่างติดตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนช่วง 2Q62 บวกกับติดตามผลการประชุม กนง.ในวันนี้ (ตลาดคาดคงดอกเบี้ย 1.75%) ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศในประเด็น Trade warsสหรัฐฯ-จีนทุเลาลงหลังจีนออกมายืนยันว่าจะไม่ใช้เงินหยวนในการทำสงครามการค้าอย่างไรก็ดีในช่วงสั้นเรายังแนะนำให้    นักลงทุนระมัดระวัง และคาดมีแรงขายในช่วงที่ตัวเลข ศก. ทั่วโลกอ่อนแอ และมาตรการกระตุ้น ศก. ใหม่ๆ ในต่างประเทศยังไม่มีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ และลงทุนในหุ้นหลักเพียง 3 กลุ่ม ดังนี้ 
•    หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นศก.ของรัฐฯ: จากภาวะ ศก.ที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะภาคการบริโภคและการลงทุนของเอกชนทำให้เรามองว่า ครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการวานนี้มีโอกาสสูงที่จะเร่งออกนโยบายกระตุ้นศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวที่ยังมี Upside น่าสนใจ ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขาBigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (ช่วง 2Q62 คาดโต5.4%YoY ด้วยงานก่อสร้างที่รับรู้สูงกว่าปีก่อนเราปรับเพิ่มประมาณการหลังได้รับงานใหม่ขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท)
•    กลุ่ม Defensive Stock: ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นเราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (คาดผลดำเนินงานมีโตต่อเนื่องตั้งแต่ช่วง2Q62 หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.) และ LH (คาดได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ที่จำกัดเนื่องจากมีสัดส่วนโครงการแนวราบมากกว่าคอนโดราว 2-3 เท่าบวกกับมีกำไรจากการลงทุนในHMPRO, QH และ LHFG ที่โตต่อเนื่อง หนุนคาดผลการดำเนินทั้งปีโต YoY และคาดมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานช่วง 1H62 คิดเป็น 3.2-3.6% ต่อปี)
•    กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี62 โต30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต20-30% พร้อมแผนเปิดสาขาใหม่อีก300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่านBFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรสุทธิหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นตามลำดับทั้งในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจมากเช่นปีก่อน) และ III (ช่วง 2Q62 กำไรปกติโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ)
 
 
 
    6-Aug-19    Change (pts.)    5-Aug-19
SET Index    1,671.48    5.49    1,665.99
SET50 Index    1,102.31    3.85    1,098.46
SET100 Index    2,439.81    9.51    2,430.30
 
High    1,673.38    Gainers    777
Low    1,647.49    Unchanged    436
Value (Bt m)    70,439.73    Losers    856
Volume (*000)    22,896,475          
 
Market Valuation
SET Data    2018F    2019F    Long Term
Fwd PER (x)    16.5    15.1    15.1
EPS Growth (%)    13.9    9.3    3.0
EV/EBITDA (x)    11.1    10.2    9.8
FWD PBV (x)    1.9    1.8    1.7
Dividend Yield (%)    3.0    3.3    3.5
ROE    11.2    11.4    11.3
 
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    6-Aug-19    WTD    MTD    YTD
Institution    2,471.41    1,158.69    (1,574.60)    (4,751.79)
Proprietary    (678.30)    (434.26)    (1,385.63)    17,151.32
Foreign     (3,415.98)    (6,069.09)    (11,418.28)    49,284.52
Individual    1,622.87    5,344.67    14,378.51    (61,684.05)
 
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
 
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary
 

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!