หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
logo ace
บล.เออีซี : Daily Focus
 
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้คาด SET Index ปรับลง จากความกังวลภาวะสงครามการค้า รวมถึงมาตรการตอบโต้จากทางการจีนผ่านค่าเงินหยวน ส่งผลหยวนอ่อนค่าสูงกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐต่อเนื่องสามวันติดเคลื่อนไหว ประเมินกรอบเคลื่อนไหว1,640-1,655จุด 
•    Market Factor
•    (-) ตลาดยังคงกังวลสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนหลังธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางเงินหยวนอ่อนค่าเกินระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯสามวันติดต่อกันซึ่งเป็นระดับจิตวิทยาที่ตลาดกังวลปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 7.0211 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
•    (watch) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ10 ปีปรับลงต่ำสุดนับตั้งแต่ปี2559 อยู่ที่ระดับ1.647% จากผลกระทบของสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนทำให้2-10 spread ปรับลงอยู่ที่ระดับ6 bps ทำให้มีโอกาสเกิดภาวะ Inverted yield curve ได้
•    (-) สำนักงานสถิติแห่งชาติ เผยเดือน ก.ค.62 ยอดที่อยู่ในกำลังแรงงานมีจำนวน 38.09 ล้านคน แบ่งเป็นผู้มีงานทำ 37.62 ล้านคน ผู้ว่างงาน 4.36 แสนคน และผู้รอฤดูกาล 3.0 หมื่นคนทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบสถานการ์ณแรงงานพบว่า จำนวนผู้มีงานทำลดลง 1.0 ล้านคน, ผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 5.4 หมื่นคน 
•    (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 102.73บาท หรือลดลง 10.78% Year To Date
•         Update Flow เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมาต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,025.49 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น16,113.15 ลบ. 
•    Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้เราประเมินดัชนี SET Index แกว่งในกรอบ 1,625-1,665จุด โดยนักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การทยอยประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนช่วง 2Q62 โดย Consensus ยังคงปรับลดลง EPS อย่างต่อเนื่อง บวกกับแรงกดดันจาก Trade War ที่ยังไม่คลี่คลายยังกดดันตลาดต่อเนื่องอย่างไรก็ดีในช่วงสั้นเรายังแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวัง และคาดมีแรงขายจากผลประกอบการ บจ.ในสัปดาห์นี้โดยยังคงแนะนำลงทุนในหุ้นหลัก 3 กลุ่ม ดังนี้ 
•    หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นศก.ของรัฐฯ: จากภาวะ ศก.ที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะภาคการบริโภคและการลงทุนของเอกชนทำให้เรามองว่าครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการวานนี้มีโอกาสสูงที่จะเร่งออกนโยบายกระตุ้น ศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวที่ยังมี Upside น่าสนใจได้แก่BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการ ฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (ช่วง 2Q62 คาดโต5.4%YoY ด้วยงานก่อสร้างที่รับรู้สูงกว่าปีก่อนเราปรับเพิ่มประมาณการหลังได้รับงานใหม่ขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท)
•    กลุ่ม Defensive Stock: ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นเราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯ ที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.), LH (คาดได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ที่จำกัดเนื่องจากมีสัดส่วนโครงการแนวราบมากกว่าคอนโดราว 2-3 เท่าบวกกับมีกำไรจากการลงทุนใน HMPRO, QH และ LHFG ที่โตต่อเนื่อง และคาดมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานช่วง 1H62 คิดเป็น 3.2-3.6% ต่อปี), SPALI (คาดราคาหุ้นปรับตัวลงมาสะท้อนกำไรช่วง 2Q62 ที่คาดหดตัวทั้ง YoY และ QoQ และคาดจ่ายเงินปันผลจากผลกำไรครึ่งปีแรกหุ้นละ 0.5 บ. หรือคิดเป็น Div. Yield 2.3%), GPI แม้กำไรช่วง 2Q62 ลดลง13.1% และ 29.1%YoY และ QoQ ตามลำดับจากการรับรู้ค่าเช่าของจำนวนวันการจัดงานมอเตอร์โชว์ลดลง YoYรวมถึง 3Qและ4Q62 ยังคงรับรู้ขาดทุนจากผลของฤดูกาล แต่คาดธุรกิจกลับมาฟื้นตัวได้ในปี 63 จากการรุกจัดงานมอเตอร์โชว์ที่เมียนมาร์ และการเพิ่มรูปแบบ Event ใหม่ GP eRacing หนุนธรุกิจหลัก และต่อยอดสู่ธุรกิจ Gaming ในอนาคต บวกกับGPI มีจุดเด่นที่ปันผลสูง จ่ายปันผล 0.10 บ. (คิดเป็น Div. Yield5.%)
•    กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี62 โต30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต20-30% พร้อมแผนเปิดสาขาใหม่อีก300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุดSAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการTurnaround ของกำไรสุทธิหลังเริ่มรวมงบการเงินกับPMCT ซึ่งคาดเห็นSynergy ชัดเจนขึ้นตามลำดับทั้งในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจมากเช่นปีก่อน) และ III (ช่วง 2Q62 กำไรปกติโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ)
 
 
    9-Aug-19    Change (pts.)    8-Aug-19
SET Index    1,650.64    -14.48    1,665.12
SET50 Index    1,087.14    -9.13    1,096.27
SET100 Index    2,405.17    -22.70    2,427.87
 
 
 
High    1,675.44    Gainers    394
Low    1,649.52    Unchanged    367
Value (Bt m)    59,240.66    Losers    1,213
Volume (*000)    18,166,819          
 
Market Valuation
SET Data    2018F    2019F    Long Term
Fwd PER (x)    16.5    15.1    15.1
EPS Growth (%)    13.9    9.3    3.0
EV/EBITDA (x)    11.1    10.2    9.8
FWD PBV (x)    1.9    1.8    1.7
Dividend Yield (%)    3.0    3.3    3.5
ROE    11.2    11.4    11.3
 
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    9-Aug-19    WTD    MTD    YTD
Institution    (30.01)    5,223.37    2,490.08    (687.11)
Proprietary    (969.01)    (3,421.03)    (4,372.39)    14,164.56
Foreign     (2,025.49)    (10,763.96)    (16,113.15)    44,589.65
Individual    3,024.51    8,961.62    17,995.46    (58,067.09)
 
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
 
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!