ฟิทช์ เรทติ้งส์- กรุงเทพฯ - 7 พฤศจิกายน 2564 : บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (TLI; อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลที่ ‘A-’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ) น่าจะยังมีระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงไว้ตามกฎหมายในระดับที่แข็งแกร่ง ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้กับประชาชนโดยทั่วไป (IPO) ในปี 2565 จำนวน 2.4 พันล้านหุ้น ฟิทช์เชื่อว่า TLI จะยังคงมีกันชนและความสามารถในการรองรับผลกระทบจากการตัดจำหน่ายบัญชีลูกหนี้เป็นหนี้สูญและความเสี่ยงอื่นๆได้ในระดับหนึ่ง
TLI ได้ประกาศแผนธุรกิจในการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะเสนอขายที่ประมาณร้อยละ 20 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท โดยจะแบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนร้อยละ 41 และหุ้นที่ขายโดยผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับครอบครัวไชยวรรณร้อยละ 59
ฟิทช์ เชื่อว่า เงินที่ TLI จะได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1 พันล้านหุ้น จะช่วยให้บริษัท มีความยืดหยุ่นทางการเงินที่ดีขึ้น ในช่วงที่มีการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ TLI มีแผนจะลงทุนในการนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ (Digital Transformation) เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้า ด้วยรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย เช่น สัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ และสัญญาเพิ่มเติมประกันโรคร้ายแรง
อีกทั้ง บริษัทจะลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการตลาดและช่องทางการขายผ่านคู่ค้าทางธุรกิจเพิ่มเติมด้วย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทรักษาความสามารถในการแข่งขันและสัดส่วนทางการตลาดได้
นอกจากนี้ ฟิทช์ยังมองว่า การที่บริษัทเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ น่าจะช่วยให้มีการเปิดเผยข้อมูลที่ดีขึ้น จากเดิมที่เป็นไปตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยเท่านั้น รวมทั้งทำให้บริษัทมีแหล่งเงินทุนเพิ่มขึ้นเพื่อขยายธุรกิจในอนาคต
TLI ยังคงมีผลประกอบที่ดี โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 บริษัทมีรายรับจากเบี้ยประกันภัยรวม จำนวน 4.04 หมื่นล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ จำนวน 5.9 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกำไรจากการลงทุน การลงทุนของบริษัทยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่ง
โดยเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ประมาณร้อยละ 80 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตราสารหนี้รัฐบาลและบริษัทที่มีอันดับเครดิตอยู่ในระดับลงทุนได้ (Investment grade) และมีค่าความแตกต่างของระยะเวลาระหว่างสินทรัพย์ต่อหนี้สิน (Duration Gap) ไม่มากนักที่ 1.8 ปี ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ที่ระดับร้อยละ 334 ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ร้อยละ 120 อยู่มาก
ติดต่อ:
ชาลี ฉัตรเสถียรพงศ์
Associate Director
+66 2108 0162
บริษัท ฟิทช์เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ชั้น 17 อาคารปาร์คเวนเชอร์
57 ถนน วิทยุ ลุมพินี
ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
Siew Wai Wan, CFA
Senior Director
+65 6796 7217
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.fitchratings.com
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ