หมวดหมู่: มติ ครม.

GOV1 copy


ร่างกฎกระทรวงออกตามความในมาตรา 63/11 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง .. 2539 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (ฉบับที่ 3) .. 2562 (ร่างกฎกระทรรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกเอกชน การกำหนดค่าตอบแทน และวิธีการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่เอกชนที่สืบหาทรัพย์สิน .. ....)

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกเอกชน การกำหนดค่าตอบแทน และวิธีการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่เอกชนที่สืบหาทรัพย์สิน .. …. ที่ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้

          ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ เป็นการกำหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอกชน การกำหนดและวิธีการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่เอกชนที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการสืบหาทรัพย์สินของผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครอง กรณีที่หน่วยงานของรัฐออกคำสั่งให้ชำระเงินและ กรณีดังกล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการสืบหาทรัพย์สิน และจำนวนเงินที่ต้องชำระตามมาตรการบังคับทางปกครองนั้นมีมูลค่าตั้งแต่สองล้านบาทขึ้นไป โดยเอกชนผู้ได้รับมอบหมายให้สืบหาทรัพย์สินแทนหน่วยงานของรัฐต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้และต้องเป็นผู้ไม่มีส่วนได้เสียกับผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครอง รวมทั้งกำหนดให้เอกชนผู้ได้รับมอบหมายที่สืบพบทรัพย์สินแล้วและได้รายงานต่อเจ้าพนักงานบังคับทางปกครองมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนสำหรับการสืบหาทรัพย์สินนั้น ซึ่งเป็นการออกกฎกระทรวงตามความในมาตรา 63/11 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง .. 2539 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (ฉบับที่ 3) .. 2562 เพื่อให้มีรายละเอียดวิธีปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ อันทำให้การบังคับตามคำสั่งทางปกครองมีความรวดเร็วและเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ ซึ่งคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองเห็นชอบด้วยแล้ว

          สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง

          กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกเอกชน การกำหนดค่ตอบแทน และวิธีการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่เอกชนที่สืบหาทรัพย์สิน ดังนี้

          1. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการประกาศคัดเลือกเอกชนเพื่อมอบหมายให้ดำเนินการสืบหาทรัพย์สินของผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครองแทนหน่วยงานของรัฐ โดยกำหนดให้ในการบังคับ ตามคำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ชำระเงิน กรณีที่หน่วยงานของรัฐที่ออกคำสั่งให้ชำระเงินไม่มีเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการสืบหาทรัพย์สิน และจำนวนเงินที่ต้องชำระตามมาตรการบังคับทางปกครองมีมูลค่าตั้งแต่สองล้านบาทขึ้นไป หน่วยงานของรัฐนั้นอาจประกาศคัดเลือกเอกชนเพื่อมอบหมายให้ดำเนินการสืบหาทรัพย์สินของผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครองแทนได้ โดยประกาศในเว็บไชต์ของหน่วยงานของรัฐดังกล่าวหรือในเว็บไซต์อื่นหรือใน สื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นที่แพร่หลายหรือเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป

          2. กำหนดให้เอกชนที่ประสงค์จะเข้ารับการคัดเลือกยื่นคำร้องพร้อมทั้งเอกสารต่อหน่วยงานของรัฐที่ออกคำสั่งให้ชำระเงิน

          3. กำหนดลักษณะของเอกชนที่อาจได้รับมอบหมายให้สืบหาทรัพย์สิน

                 3.1 บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย เช่น ไม่เป็นข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ปฏิบัติงานประเภทอื่นในหน่วยงานของรัฐที่ออกประกาศคัดเลือก

                 3.2 นิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการเกี่ยวกับการดำเนินคดี การสืบทรัพย์ การบังคับคดี การยึด หรืออายัดทรัพย์สิน เป็นต้น

 

EXIM One 720x90 C J

วิริยะ 720x100

 

          4. กำหนดระยะเวลาในการพิจารณาคำร้องและการจัดทำบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกของหน่วยงานของรัฐ โดยให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาคำร้องและจัดทำบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกซึ่งมีลักษณะตามข้อ 3 ที่เห็นว่ามีความเหมาะสมในการสืบหาทรัพย์สินให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วันนับแต่วันครบกำหนดให้ยื่นคำร้อง และประกาศบัญชีดังกล่าวในเว็บไซต์ของหน่วยงาน

          5. กำหนดให้หน่วยงานของรัฐมีหนังสือแจ้งการมอบหมายไปยังเอกชนผู้ได้รับการคัดเลือก โดยให้ระบุจำนวนเงินที่ผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครองค้างชำระรายละเอียดภูมิลำเนา ที่อยู่ และข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครองที่สืบพบแล้ว ระยะเวลาในการสืบหาทรัพย์สิน ซึ่งต้องไม่เกินสิบปีนับแต่วันที่คำสั่งให้ชำระเงินเป็นที่สุด รวมทั้งเงื่อนไขอื่นที่เอกชนผู้ได้รับมอบหมายต้องปฏิบัติ

          6. กำหนดให้เอกชนผู้ได้รับมอบหมายต้องรายงานผลการสืบหาทรัพย์สินต่อเจ้าพนักงานบังคับทางปกครองเพื่อดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สินต่อไป ทั้งนี้ ในการรายงาน ให้แนบแผนที่ที่ตั้งของทรัพย์สิน ภาพถ่ายทรัพย์สินที่จะนำยึด สำเนาโฉนดที่ดินหรือเอกสารแสดงสิทธิในที่ดิน และเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวกับทรัพย์สินที่จะยึดหรืออายัดด้วย

          7. กำหนดเหตุที่หัวหน้าหน่วยงานของรัฐมีอำนาจสั่งเพิกถอนและสั่งถอนรายชื่อเอกชนผู้ได้รับการคัดเลือกออกจากบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก เช่น เอกชนไม่มีลักษณะตามข้อ 3เอกชนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือจงใจกระทำการเป็นเหตุให้เสียหายแก่หน่วยงานของรัฐ

          8. กำหนดเหตุที่หัวหน้าหน่วยงานของรัฐมีอำนาจยกเลิกการมอบหมายให้เอกชนสืบหาทรัพย์สิน ได้แก่ เอกชนตาย เลิกนิติบุคคล

          9. กำหนดให้เอกชนผู้ได้รับมอบหมายที่สืบพบทรัพย์สินแล้วรายงานต่อเจ้าพนักงานบังคับทางปกครองมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนสำหรับการสืบหาทรัพย์สิน ดังนี้

                 9.1 กรณีทรัพย์สินที่สืบพบเป็นเงิน หรือเป็นสังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ หรือสิทธิ ต่างๆ ที่มีมูลค่า แต่ไม่ต้องขายทอดตลาดหรือจำหน่ายโดยวิธีอื่น เนื่องจากมีการชำระเงินแทนราคาทรัพย์สินดังกล่าว ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราร้อยละสองครึ่งของจำนวนเงินที่คำนวณได้ แต่ไม่เกินหนึ่งล้านบาทต่อจำนวนเงินที่ต้องชำระตามคำสั่งทางปกครองในเรื่องนั้น

                 9.2 กรณีทรัพย์สินที่สืบพบเป็นสังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ หรือสิทธิต่างๆ ที่มีมูลค่า และมีการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายโดยวิธีอื่น ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราร้อยละสองของจำนวนเงินที่คำนวณได้ แต่ไม่เกินหนึ่งล้านบาทต่อจำนวนเงินที่ต้องชำระตามคำสั่งทางปกครองในเรื่องนั้น

                  ทั้งนี้ให้จ่ายค่าตอบแทนในการสืบหาทรัพย์สินให้แก่เอกชนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่หน่วยงานของรัฐได้รับเงิน

          10. กำหนดให้ประกาศคัดเลือกเอกชน คำร้องขอเข้ารับการคัดเลือกและหนังสือแจ้งการมอบหมาย ให้เป็นไปตามแบบที่หน่วยงานของรัฐกำหนดตามคำแนะนำของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 24 พฤษภาคม 2565

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

A5847

 Click Donate Support Web 

AXA 720 x100

aia 720 x100GC 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!