AUCT ขยายพื้นที่ประมูลครอบคลุม 43 แห่งทั่วประเทศ รองรับรถยนต์มือสอง 48,000 คันยืนยันตลาด ตจว.เติบโต
บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT เพิ่มพื้นที่บริการทั่วประเทศครอบคลุม 43 จังหวัดทั่วประเทศ บนพื้นที่กว่า 410 ไร่ รองรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์รอประมูลขายทอดตลาดจำนวน 48,000 คัน เผยตลาดรถยนต์มือสองภูมิภาคต่างๆ มีความต้องการซื้อต่อเนื่อง
นายวรัญญู ศิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ (AUCT) เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดรถยนต์มือสองว่า ในช่วงที่ผ่านมาตลาดประมูลต่างจังหวัดมีอัตราการขยายตัวในทิศทางที่ดี เนื่องจากปริมาณการไหลเข้าของซัพพลายจากสถาบันการเงินต่างๆ รวมทั้งราคารถยนต์มือสองที่ถูกขายผ่านการประมูลอยู่ในระดับที่ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ ทั้งจากกลุ่มลูกค้าซื้อใช้เองและผู้ประกอบการรถยนต์มือสอง ส่งผลให้ตลาดต่างจังหวัดมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ขยายสาขาเพื่อบริการลูกค้าและสำหรับใช้เป็นคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 12 แห่ง ส่งผลให้ปัจจุบันสหการประมูลมีพื้นที่บริการลูกค้ารวมทั้งหมด 43 แห่งทั่วประเทศ
“บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการให้บริการลูกค้าทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย การเพิ่มพื้นที่บริการลูกค้าดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า เพราะนอกจากสำนักงานใหญ่และสาขารังสิต-คลอง 8 แล้ว ความต้องการซื้อรถยนต์มือสองทั่วประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดในภูมิภาคต่างๆ ที่มีความต้องการซื้อที่หลากหลาย ทั้งรถยนต์ประเภทเครื่องจักรกลทางการเกษตรมือสอง รถจักรยานยนต์มือสอง รวมทั้งรถกระบะมือสอง ฯลฯ ที่มีความต้องการซื้อค่อนข้างสูง” นายวรัญญูกล่าว
นายสุธี สมาธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) กล่าวให้ความเห็นว่า การเปิดจุดบริการลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 12 แห่งทั่วประเทศ เพื่อต้องการใช้เป็นจุดสต็อกสินค้าสำหรับบริการสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อใช้เป็นสถานที่จอดรถยนต์เพื่อรอการขายทอดตลาด โดยภาคเหนือได้เพิ่มที่จังหวัดกำแพงเพชร นครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เลย หนองคาย นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ภาคกลางที่จังหวัดสุพรรณบุรี ภาคตะวันออกที่จังหวัดปราจีนบุรี จันทบุรี และภาคใต้ที่จังหวัดกระบี่
นอกจากการเพิ่มจุดบริการลูกค้าทั่วประเทศแล้ว เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทฯ ยังได้เปิดลานประมูลซื้อ-ขายรถยนต์มือสองเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง คือที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและที่จังหวัดอุดรธานี เนื่องจากเป็นจังหวัดหัวเมืองของภูมิภาคที่ตลาดรถยนต์มือสองมีความต้องการซื้อค่อนข้างสูง ทั้งนี้ จากการขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมถึง 43 แห่งทั่วประเทศ บนพื้นที่กว่า 410 ไร่ ทำให้สามารถรองรับการเติบโตของตลาดในภูมิภาคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสามารถจอดรถยนต์และรถจักรยานยนต์มือสองได้ถึง 48,000 คัน
5467