เมื่อวานก่อนลงหนักกว่าคาด : เมื่อวานศุกร์ ดัชนีหุ้นไทยลงแรง หลักๆจากแรงขาย หุ้น MTC SAWAD BCPG CBG AOT GPSC ส่วนหุ้นบวกสวนตลาด ได้แก่ TOP BBL IVL DOHOME              

          แนวโน้มวันนี้ : วันนี้คาดดัชนีฯ Sideways down 1640-1660 จุด และ ภาพใหญ่ดัชนีฯ ยังคงถูกปกคลุม ด้วยแรงกดดันจากการปรับกำไรลงตามงบที่ผิดคาด และปัจจัยลบที่เข้ามากดดัน จากกลุ่ม Global play และ ธนาคารพาณิชย์ใหญ่  

          แนวโน้มสัปดาห์ : สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีฯลงมาตามแนวรับ 1,650 จุด จากแรงขายหุ้น ปิโตรเคมี โรงกลั่น ที่รายงานกำไรแย่กว่าคาด บวกกับ กลุ่มธนาคารใหญ่ที่ลงแรง จากความเสี่ยงการปรับกำไรลงตามทิศทางดอกเบี้ย หลัง กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 1.5%... 

          เรายังคงคาดว่าดัชนีฯ มีความเสี่ยงขาลง (กรอบสัปดาห์นี้ 1630-1660) จากการปรับลดคาดการณ์กำไรของ บจ.ใหญ่ลง โดยเฉพาะ กลุ่มที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก อย่างเช่น ปิโตรเคมี โรงกลั่น น้ำมัน ถ่านหิน ส่งออก ธนาคารใหญ่  

          กลยุทธ์ แนะนำ โฟกัสไปที่ 1) หุ้นรายตัว ที่เป็น ดาวเด่น จากกำไร 2Q ถึงครึ่งปีหลัง และ 2) หุ้นที่คาดรายงานกำไร ดี หรือ Bottom out ซึ่งเรายังเห็นโอกาสในการลงทุนสำหรับหุ้น เหล่านี้ อีกหลายตัว (ติดตามรายละเอียดด้านในฉบับ)

 

What to watch & Theme to play

          กลุ่มเสี่ยงกำไรลดลง 2H19  : คาดแนวโน้มกำไร หุ้นธนาคารใหญ่ ประกันชีวิต จะถูกกระทบจากการปรับลดดอกเบี้ยลง โดยเราคาดว่าจะได้เห็น กนง.ปรับลดดอกเบี้ยลงอีกครั้ง 0.25% ภายใน 3 เดือน ข้างหน้า ล่าสุด BLS Research ได้มีการ ทบทวนประมาณการณ์กำไรกลุ่มธนาคารพาณิชย์ลงแล้ว...  และ เราคาดว่ากำไรที่น่าผิดหวังของหุ้น โรงกลั่น ปิโตรเคมี น้ำมัน ถ่านหิน จะมีผลต่อแนวโน้มการปรับลดคาดการณ์กำไรในครึ่งปีหลังนี้ 

           กำไรที่ดีกว่าคาด & แย่กว่าคาด 2Q19  : จาการรวบรวมกำไร บจ.ไตรมาส 2 ตั้งแต่วันแรก ถึงเช้าวันศุกร์ (9 สค.) ที่ผ่านมา เราพบว่ามีจำนวน บจ. ใน BLS Universe ที่ (1) กำไรดีกว่าคาด คิดเป็น 29% และที่แย่กว่าคาด 36% (2) บจ.ที่ปรับกำไรขึ้นมี 7% เราปรับกำไรลง 25% และคงคาดการณ์กำไรไว้มี 68%  

          (+) หุ้นที่รายงานกำไร เติบโตโดดเด่น และอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะดีต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เช่น TFG GFPT ADVANC INTUCH DTAC CBG NETBAY SF VGI ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่เชื่อมโยงกับการบริโภคการลงทุนภายในประเทศ  

          (-) สำหรับ หุ้นที่รายงานกำไร แย่กว่าคาด เช่น SCC IRPC PTTGC SPRC IVL SAT STANLY ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ มีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกขาลง และเราคาดว่าจะได้เห็นการปรับประมาณการณ์กำไร ครึ่งหลังของ หุ้นในกลุ่มเหล่านี้ลงอย่างต่อเนื่อง     

           จับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ : สัปดาห์นี้ ตลาดจะโฟกัสที่ มาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจที่ รมว.คลัง กำลังจะนำเสนอที่ประชุม ครม. วันที่ 19 สค.นี้   

           ตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ : ตัวเลขเศรษฐกิจโลกสัปดาห์นี้คาดจะ ได้เห็นผลกระทบจาก สงครามการค้า ที่ส่งผลต่อ GDP เยอรมนี (-0.2% จาก +0.4%) สิงคโปร์ (+0.2% จาก +1.1%) ชะลอตัวลง, ยอดค้าปลีกในสหรัฐฯ และ อังกฤษ ตัวเลขส่งออกอินโดนีเซีย, ดัชนีการผลิต จีน คาดจะชะลอตัวทั้งสิ้น 

          ภาวะเงินเฟอทั่วโลก คาดทรงตัวในระดับต่ำ เช่น เงินเฟอญี่ปุน PPI -0.4% อังกฤษ CPI +1.8% y-y จาก +2% US CPI คาด +0.2% m-m จาก +0.3% 

          จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง และ ภาวะเงินเฟอที่ทรงตัวในระดับต่ำ คาดธนาคารกลางส่วนใหญ่จะเร่งดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มขึ้นอีก  

 

หุ้นแนะนำวันนี้ 

          JASIF สะสม แนวรับ 11.4 ต้าน 11.8   

          JMART แนวรับ 11.3 ต้าน 12 Stop loss 11  

 

          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 

          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 

          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 

          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน  

 

หุ้นมีข่าว    

 

Market       

          สมาคมตลาดตราสารหนี้ ชี้เกณฑ์ "ไอเอฟอาร์เอส9" ส่งผล บจ. ที่ถือลงทุนหุ้นกู้ ต้องตั้งด้อยค่าตามเรทติ้งที่ได้รับ เผยอยู่ระหว่างจัดทำอัตราการตั้งสำรอง ย้ำเรทติ้งต่ำต้องสำรองสูง ขณะนักวิเคราะห์ฟันธง ทำหุ้นกู้ขายยากขึ้น ส่อกระทบต้นทุนบริษัทขนาดเล็ก (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)   

 

BEM    

          "ปลัดคมนาคม" เตรียมปิดดีลข้อพิพาททางด่วน BEM วันที่ 16 ส.ค.นี้ ส่งซิก "กทพ." เจรจาขยายสัมปทานแลกยุติทุกคดี มาถูกทางแล้ว พร้อมรายงาน "ศักดิ์สยาม" ไม่เกิน 27 ส.ค. 2562 ฟาก BEM ปิดงบไตรมาส 2 ฟันกำไรแหลก 3,118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 218% หนุนงวด 6 เดือนทำกำไร 3,977 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132% ลุยจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 6 สตางค์(ที่มา:ข่าวหุ้น) 

 

ILINK 

          เล็งประมูลงานเคเบิลใต้น้ำ 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,955 ล้านบาท คาดเปิดประมูลสิ้น ส.ค.นี้ ย้ำเปารายได้ปี 62 โต 5,485 ล้านบาท ส่วนงบไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ 45.65 ล้านบาท ลดลง 40.36% ฉุดครึ่งปีแรกกำไรสุทธิหด 35.39% เหลือ 94.57 ล้านบาท(ที่มา:ข่าวหุ้น) 

 

WHA 

          ผู้บริหาร WHA ออกโรงยันไตรมาส 3/2562 ผลงานโตต่อ จับตาเดือนกันยายนนี้ ลูกค้ายักษ์ใหญ่ต่างแดนซื้อที่ดินเพิ่ม จ่อสรุปพันธมิตรโลจิสติกส์ในเวียดนามมั่นใจยอดขายปี 2562 ในประเทศเข้าเป้า 1.4 พันไร่ และต่างประเทศอีก 200 ไร่ โบรกคาดกำไรสุทธิปีนี้ 3.4 พันล้านบาท เติบโต 18% จากปีก่อน เคาะพื้นฐาน 5.60 บาท (ที่มา:ทันหุ้น) 

 

TCAP 

          TBANK มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ย ยอมรับครึ่งหลังท้าทายประคองสินเชื่อรวมโต 5-7% ตามเปา หนุนโดยสินเชื่อรถยนต์ที่ยังมั่นใจทั้งปีโต 10% รับหากประกาศเกณฑ์ DSR อาจกระทบธุรกิจระยะสั้น แต่เข้าใจว่าเป็นการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งธุรกิจ(ที่มา:ทันหุ้น) 

 

THAI AAV 

          ฮ่องกงบานปลาย! ยิงแก๊สน้ำตาในรถไฟใต้ดินปิดสนามบิน ตร.จ่อใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงสลายม็อบ ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งชี้ส่งสัญญาณก่อการร้าย บินไทย-แอร์เอเชียยกเลิกเที่ยวบิน (ที่มา คมชัดลึก) 

 

Market 

          "บิ๊กตู่" ขออย่าไปสนใจเรื่องไร้สาระ ย้ำต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ขณะที่ 10 พรรคเล็กยอมสยบ ลั่นไม่ทิ้งรัฐบาล นายกฯ นัดเคลียร์ใจ 15 ส.ค. ด้าน พปชร. ชู "บิ๊กปอม" นั่ง ปธ. คกก.ยุทธศาสตร์พรรค "ดีอี" ลุยล้าง "เฟคนิวส์" (ที่มา คมชัดลึก) 

 

Trend Forecasting

 

SET Index ปิด 1,650.64 (-0.87%) มูลค่าการซื้อขาย 5.9 หมื่นล้านบาท  

 

แนวโน้มระยะสั้นมอง

          SET Index แนวรับ 1,640 แนวต้าน 1,660 / SET100 รับ 2,395 ต้าน 2,415 BSET100 รับ 10.50 ต้าน 10.64 / BMSCITH รับ 12.02 ต้าน 12.13

 

หัวข้อ : หรือจะเป็นกองทุนในประเทศช่วยพยุงตลาด....

 

กลยุทธ์เทคนิค: 

          สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีทำจุดสูงสุดไว้ที่ 1681 จุดและจุดต่ำสุด 1647 จุด ขณะที่แรงสู้ cover short จะอยู่บนเส้นแนวรับสำคัญ 1640 (Trend support) พร้อมกับ RSI ปรับลงเข้าเขต Oversold หุ้นลงแรงเริ่มถูกซื้อกลับ Cover short กลุ่มอุตสาหกรรมโดดเด่นได้แก่สื่อสาร สวนทางกับกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมีและธนาคารปรับตัวลง แนะหลีกเลี่ยงกลุ่มที่มีสัญญาณอ่อน โครงสร้างทำ New low แนวโน้มตลาดสัปดาห์นี้กรณีหลุด 1640 จุดจะกลับมาตั้งหลักที่แนวรับใหญ่ 1600 จุด (Major support)

 

มุมมองทางเทคนิค:    

          ย้อนสถิติดัชนีตลาดหุ้นไทยเปรียบเทียบกับยอดซื้อขายกองทุนในประเทศ หากดัชนีปรับตัวลงแรง เรามักจะเห็น fund flow จากกองทุนในประเทศเข้ามาช้อนซื้อหุ้นราคาถูก นักลงทุนหลายๆท่านมองเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมเป็นจังหวะเตรียมซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อยภาษี ตลาดหุ้นมีโอกาสยืนได้ 

 

วิธีการเลือกหุ้น:

          หุ้นซื้อเลือกจากสัญญาณกลับตัวจากเครื่องมือวัดโมเมนตัม อยู่ในกลุ่มหุ้นนำตลาด ราคาจ่อทะลุ New high  แนะหลีกเลี่ยงหุ้นปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 5&25 วัน นอกจากนี้หาก RSI > 70 อาจส่งผลให้ราคาผันผวนเสี่ยงลงแรง   

          *Bull Signal (หุ้นสัญญาณซื้อ): CPF, ADVANC,TRUE 

          *Bear Signal (หุ้นสัญญาณขาย): CBG, BCPG, BEAUTY   

 

โมเดลพอร์ตทางเทคนิค:

          สรุปผลตอบแทนการลงทุน Year to date +14.55% สูงกว่าตลาดที่ +6.5%  

          *Addition(หุ้นเพิ่ม):CPF, ADVANC,TRUE 

          *Deletion(หุ้นออก): BCPG, UTP 

          สรุปหุ้นคงเหลือ: M, TFG, CHG, AOT, WHA, KKP, AMATA, DOD, BEM, TRUE  

 

          ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค                 

          This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. +662-618-133 

 

Track with Technical

 

          CPF (CPF01C2001A) 

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 27.00 

          ต้าน 32.00 

          เหตุผล CPF โครงสร้างระยะกลางบ่งชี้สัญญาณกลับตัว "Rounding bottom" กรณีทะลุกรอบสามเหลี่ยมบนได้หุ้นมีโอกาสขึ้นแรง 

 

          ADVANC (ADVA01C1912B) 

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 217.00 

          ต้าน 230.00-240.00 Breaking high 

          เหตุผล ADVANC โดดเด่นอยู่ในกลุ่มหุ้นนำตลาด ราคาปิดทำจุดสูงสุดใหม่ยืนยันสัญญาณกลับตัว Bull MACD 

 

          TRUE (TRUE01C2002A) 

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 6.00 

          ต้าน 6.80 

          เหตุผล TRUE ยืนได้แข็งแกร่ง ลงน้อยขณะที่ราคาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5&25 day EMA โครงสร้างระยะกลางบ่งชี้จุดต้าน ถัดไป 6.8